ห้องรัตนฯ ช่องแสดงที่ 1

พระพุทธรูปปางปราบท้าวผกาพรหม ศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้น อายุประมาณ 200 ปี (ภาษาสามัญเรียกว่าปางนารายณ์ทรงโค)

พระพุทธรูปปางนี้เป็นปางที่นิยมมากในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สำหรับองค์ที่แสดงอยู่นี้เป็นองค์ที่ใหญ่และสวยที่สุดที่เคยค้นพบมา (พระพุทธรูปปางถวายเนตรขณะทรงเดินจงกรมอยู่บนเศียรข้างบนของท้าวผกาพรหม)

ตำนาน ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้นคือพระโพธิสัตว์ในบนสวรรค์ชั้นดุสิตที่ร่วมสมัยกับท้าวผกาพรหม ซึ่งเมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้วและเสด็จไปพรหมโลก ท้าวผกาพรหมไม่เชื่อว่าพระองค์ทรงสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าแล้วและได้ท้าประลองโดยการซ่อนหา (ซึ่งปางนี้บางทีมีชื่อเล่นว่าปางซ่อนแอบ) ไม่ว่าท้าวมหาพรหมจะแปลงเป็นสิ่งใด องค์พระสัมมาสัมพทุธเจ้าก็ทรงหาพบอยู่ดี จนสุดท้ายท้าวผกาพรหมก็ให้พระพุทธเจ้าซ่อนบ้าง พระองค์ก็ทรงหายวับไปกับตาเหลือแต่เสียงสวดมนต์ก้องท้องพระโรงของท้าวผกาพรหมหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอเลยยอมแพ้ ร้องหาพระพุทธองค์ว่าอยู่ที่ไหนหาไม่เจอ พระองค์ทรงตอบว่า เราก็เดินจงกรมเจริญสมาธิอยู่บนศรีษะของท่านไงละ